แนวทางสร้างคุณภาพชีวิตสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และผู้ดูแล

แนวทางสร้างคุณภาพชีวิต
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และผู้ดูแล

ผู้ป่วยและผู้ดูแล ต้องการทั้งกำลังกาย และกำลังใจ

ผู้ป่วย ผู้ดูแล และสมาชิกในครอบครัว จะต้องตั้งสติ ทำใจยอมรับความเป็นจริงให้ได้ มีกำลังใจ และมีความรักที่จะทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน

การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดแต่ละครอบครัวมีความแตกต่างกัน เมื่อมีผู้ป่วยเกิดขึ้นหนึ่งคนย่อมมีผลกระทบต่อครอบครัวนั้นเสมอ นอกเหนือจากผู้ป่วยยังมีผู้ดูแลที่ต้องการกำลังกายและกำลังใจไม่น้อยไปกว่ากัน ทั้งนี้ผู้ป่วยมะเร็งปอดและผู้ดูแลสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ โดยผู้ป่วย ผู้ดูแล และสมาชิกในครอบครัว จะต้องตั้งสติ ทำใจยอมรับความเป็นจริงให้ได้ มีกำลังใจ และมีความรักที่จะทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน

บทสรุปในมุมของผู้ป่วย ได้แก่ เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใหม่ อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง หยุดนิ่งพักได้แรงเพิ่ม เสริมพลังด้วยงานและการออกกำลังกาย ใส่ใจคุณค่าอาหาร เบิกบานต้านซึมเศร้า ปลุกเร้ามิตรภาพทั้งเก่าและใหม่

เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใหม่

จิตใจคนเรา สามารถปรับให้เข้มแข็งกว่าร่างกายได้เสมอ

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ดูแลพูดว่า “ทุกอย่างอยู่ที่ใจ” โรคภัยในร่างกายที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จิตใจคนเราสามารถปรับแต่งให้เข้มแข็งกว่าร่างกายได้เสมอ

การรับรู้ข่าวร้ายว่าป่วยเป็นมะเร็งต้องใช้เวลาและความพยายามมหาศาล กว่าจะทำใจยอมรับได้ ใช้เวลาทำใจ ปรับตัว ปรับใจตามสถานการณ์ เปิดใจรับรู้ข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะเข้าใจแนวทางการรักษา ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง และเตรียมตัวรับมือด้วยความพร้อม

อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

หลังจากรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวด จิตใจมักปฏิเสธอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องไม่จริง แต่ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องยอมรับว่าการเจ็บป่วยเป็นเรื่องจริงและต้องเผชิญฝ่าฟันไปด้วยกัน ทั้งผู้ป่วยครอบครัว และทีมบุคลากรทางการแพทย์

เมื่อยอมรับและเข้าใจรายละเอียดของโรคและเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางการแพทย์สำหรับการรักษาแล้ว จึงให้ความร่วมมือในการรักษาแผนปัจจุบัน ไม่ปฏิเสธ หลบเลี่ยง หรือไปแสวงหาหนทางที่ผิดจากความจริง หรือไม่มีหลักฐานว่ารักษาได้จริง

หยุดนิ่งพัก ได้แรงเพิ่ม

  • มีเวลาอยู่กับตัวเอง
  • งีบหลับ
  • ทำสมาธิ หรือทำงานอดิเรกเบาๆ ในตอนกลางวัน
  • นอนหลับให้เพียงพอในตอนกลางคืน

ช่วงเริ่มต้นของการวินิจฉัยและรักษา เป็นช่วงที่ร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้ามากที่สุด ทั้งการที่จะต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมมากมาย การรับรู้ข้อมูลใหม่ๆ การต่อสู้กับความรู้สึกต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา กระบวนการรักษามะเร็งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันยาวนาน

การมีเวลาอยู่กับตัวเอง งีบหลับ ทำสมาธิ หรือทำงานอดิเรกเบาๆ ในตอนกลางวัน และการนอนหลับให้เพียงพอในตอนกลางคืน เป็นการรวบรวมกำลังกายที่สำคัญมากเพื่อให้ทุกวันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

หากมีความเครียดหรือนอนไม่หลับร่างกายจะยิ่งอ่อนล้า อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อให้ยาช่วยผ่อนคลายความเครียดและนอนหลับได้

เสริมพลังด้วยงานและการออกกำลังกาย

ผู้ป่วยมะเร็งปอดไม่จำเป็นต้องนั่งหรือนอนนิ่งอยู่กับที่เท่านั้น หากการเจ็บป่วยไม่ได้บั่นทอนร่างกายจนเกินไป และแพทย์ไม่ได้มีข้อห้าม

ผู้ป่วยมะเร็งปอดสามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น

  • เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ชี่กง โยคะ เป็นต้น
  • การออกกำลังกายเบาๆ หรือขยับร่างกายโดยการทำงานบ้านอย่างเหมาะสม
  • การฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ
  • ดีต่อร่างกาย ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
  • ดีต่อจิตใจ มีใจแจ่มใส เบิกบาน และรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น

ใส่ใจคุณค่าอาหาร

ผู้ป่วยมะเร็งปอดมักมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน จากการได้รับเคมีบำบัด การฉายรังสี และสภาวะจิตใจที่หม่นหมอง ในขณะเดียวกันมักได้รับคำแนะนำให้ใส่ใจและพิถีพิถันมากขึ้นกับอาหารการกิน

มีคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับอาหารในช่วงที่ให้เคมีบำบัด คือ การรับประทานอาหารที่สุก สะอาด มีคุณค่าครบถ้วนตามหลักโภชนาการทั้งเนื้อสัตว์ ข้าว ผัก ผลไม้ ควรรับประทานไข่ขาวให้มากขึ้นเพราะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์

ผู้ป่วยมะเร็งปอดและผู้ดูแลสามารถสนุกกับการคิดเมนูอาหารใหม่ๆ แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการทำอาหารให้ผู้อื่นได้รับรู้ สร้างงานสร้างคุณค่า เป็นผลพลอยได้นอกเหนือจากการได้กินอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย

เบิกบานต้านซึมเศร้า

ควรจัดให้มีกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ป่วยมีจิตใจเบิกบาน ไม่เป็นโรคซึมเศร้า

สามารถปล่อยวางและหยุดคิดหมกมุ่นเรื่องโรคภัยในร่างกายได้ชั่วขณะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและชื่นชอบของแต่ละบุคคลเช่น

  • การเข้าวัด ฟังธรรม ทำบุญ
  • ฟังเพลง ท่องเที่ยว เล่นกับสัตว์เลี้ยง อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ฟังเพลงเก่าๆ
  • ทำอาหาร และประดิดประดอยของใช้ในบ้าน

ปลุกเร้ามิตรภาพทั้งเก่าและใหม่

คนเรามักคิดว่าการเจ็บป่วยเป็นเรื่องโชคร้ายเฉพาะตน และรู้สึกโดดเดี่ยว แต่แท้จริงแล้วทุกคนทุกครอบครัวล้วนผ่านประสบการณ์เรื่องราวการเจ็บป่วยกันมาทั้งนั้น ควรรักษามิตรภาพเพื่อนเก่าไว้คอยบอกเล่าแบ่งปันทุกข์สุขและระบายความรู้สึกบ้าง อาจคุยโทรศัพท์หรือพบปะกัน เมื่อร่างกายและจิตใจแข็งแรงพอ ช่วงให้เคมีบำบัดทำให้ผมร่วง อาจจะอายไม่อยากพบเจอเพื่อนเก่า แต่พอผมยาวขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น ก็นัดเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้านหรือไปรับประทานอาหารนอกบ้านได้

นอกจากนี้การได้รู้จักกลุ่มเพื่อนใหม่ที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งด้วยกันหรือกลุ่มผู้ดูแล ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันก็เป็นเรื่องดี

เรียบเรียงและเขียนโดย ด็อกเตอร์ แพทย์หญิงประกายทิพ สุศิลปรัตน์
นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าของเพจ “สู้สู้สิแม่ก็แค่มะเร็ง”

Read more

เรื่องมะเร็งปอดทั้งหมด

มาเข้าใจมะเร็งปอดมากขึ้น ว่าคืออะไร แบ่งชนิดอย่างไร อาการ ระยะโรค และแนวทางการรักษา มีทั้งภาพและคลิปจากคุณหมอ

-+=