มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ต่อมน้ำเหลืองคืออะไร
ระบบน้ำเหลืองในร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ประกอบด้วยทั้งส่วนที่เป็นเนื้อและส่วนที่เป็นน้ำ โดยมีหน้าที่หลักคือ
- ระบายน้ำและน้ำเหลืองที่อยู่นอกเซลล์ ให้กลับสู่ระบบปกติ
- ป้องกันการติดเชื้อ
ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic System) ประกอบไปด้วยอวัยวะน้ำเหลือง อันได้แก่ ม้าม ไขกระดูก ต่อมทอนซิล ต่อมไทมัส
ภายในอวัยวะเหล่านี้จะเต็มไปด้วยน้ำเหลือง ซึ่งมีหน้าที่นำสารอาหารและเซลล์เม็ดเลือดขาว (Lymphocyte) ไปทั่วร่างกาย
มารู้จักมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกันเถอะ
ในระบบต่อมน้ำเหลืองมีเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า “ลิมโฟไซต์” เมื่อลิมโฟไซต์แบ่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และมีการสะสมมากขึ้นในระบบน้ำเหลือง ก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มีลักษณะเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งในระบบน้ำเหลือง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งในระบบต่อมน้ำเหลืองส่วนที่เป็นก้อนและส่วนที่เป็นน้ำ เช่น ตัวต่อมน้ำเหลือง ม้าม หรือในกระแสเลือด
ประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma) และชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma) โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งย่อยได้มากมายหลายชนิด โดย WHO ได้จำแนกระบุไว้ถึง 47 ชนิด ซึ่งถือเป็น 4% ของมะเร็งทุกชนิด ทั้งนี้แต่ละชนิดจะมีวิธีการดูแลรักษา และให้ยาที่แตกต่างกันไป
โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin สามารถแบ่งออกได้เป็น 30 ชนิดย่อย ถ้าอาศัยอัตราการเจริญของตัวมะเร็งแล้ว จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
- ชนิดค่อยเป็นค่อยไป (Indolent) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนี้จะมีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งค่อนข้างช้า แต่มักจะไม่หายขาดด้วยการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- ชนิดรุนแรง (Aggressive) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนี้จะมีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยอาจะเสียชีวิตได้ภายใน 6 เดือนถึง 2 ปี มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดรุนแรงมีโอกาสที่จะหายขาดจากโรคได้ถ้าได้รับการรักษา
ลักษณะอาการตามการแบ่งตัวช้าเร็ว
- ลักษณะอาการที่แบ่งตัวช้า เช่น ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดเท่าเดิม หรือโตขึ้นน้อย เมื่อผ่านเวลาไปหลายปี
- ลักษณะอาการที่แบ่งตัวเร็ว เช่น ภายใน 2 อาทิตย์มีขนาดโตขึ้นจาก 1 ซม. กลายเป็น 2-3 ซม. เป็นต้น
ในการรักษา แพทย์จะพิจารณาก่อนว่าผู้ป่วยเป็นกลุ่มไหน โดยดูจากอาการเมื่อมาพบแพทย์ และจากชิ้นเนื้อที่นำไปตรวจ จากนั้นจึงเลือกใช้การรักษาตามความรุนแรงของการแบ่งตัว
การรักษาคนไข้กลุ่มที่แบ่งตัวช้า แพทย์มักคำนึงถึงผลข้างเคียงที่จะได้รับ โดยเทียบประเมินกับคุณภาพชีวิตของคนไข้ หากยังสามารถใช้ชีวิตได้ปกติอยู่อาจยังไม่ทำการรักษาทันที เพื่อให้ไม่ต้องให้เกิดผลข้างเคียงมาก
สังเกตอาการ
อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เนื่องจากอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถพบได้ในหลายภาวะ เช่น การติดเชื้อ ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยบางส่วนที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง แต่โดยทั่วไปอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมักจะกินเวลานาน และไม่สามารถอธิบายได้จากสาเหตุอื่น
อาการเริ่มต้น
ข้อสังเกตที่ควรเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มีดังนี้
ต่อมโต
- ต่อมน้ำเหลืองโต พบก้อนที่บริเวณต่างๆของร่างกาย เช่น ที่คอ รักแร้ ขาหนีบ โดยก้อนที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมักไม่เจ็บ ซึ่งต่างจากการติดเชื้อ ที่มักมีอาการเจ็บที่ก้อน หรือมีก้อนที่โตเร็ว เจ็บผิดปกติ
- ม้ามโต (มักมีอาการกินแล้วอิ่มง่าย น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ) มีก้อนตามที่ต่าง ๆ
- ต่อมทอนซิลโต
มีอาการเหล่านี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีไข้ หนาวสั่น เป็นไข้ไม่ทราบสาเหตุ
- เหงื่อออกมากผิดปกติ มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
- ซีด อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ (ลดมากกว่าร้อยละ 10 ใน 6 เดือน)
รวมถึงอาการเหล่านี้
- ไอเรื้อรัง และหายใจไม่สะดวก
- อาการคันทั่วร่างกาย
- ปวดศีรษะ (พบในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีโอกาสหายขาดสูงถึง 80%
ตรวจพบเร็ว รักษาเร็ว ทำตามที่แพทย์แนะนำ พบแพทย์สม่ำเสมอ ก็หายขาดได้
ปัจจัยเสี่ยง / สาเหตุ
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เช่น
สารเคมี ยา สิ่งแปลกปลอม และการฉายแสง
- สารเคมีและยา เช่น
- สารเคมีจากการปลูกพืชผัก ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า
- ชีวิตประจำวัน เช่น ยาฉีดกันยุง ยาทาเล็บ ยาย้อมผม/สีย้อมผมที่ได้รับในปริมาณมาก
- การฝังเต้านมเทียม
- ศัลยกรรม ควรระวังการศัลยกรรมบริเวณเต้านม การใส่สิ่งที่ไม่ใช่ส่วนของร่างกายเข้าไปอาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้
- การรักษาด้วยการฉายแสง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
ภูมิคุ้มกัน
- ภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (SLE) โรคเอดส์ (HIV) การได้ยากลุ่มกดภูมิคุ้มกัน
- การติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ที่อาจเกิดในที่เดิมซ้ำๆ มีโอกาสทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นมากไปจนทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น H.Pyroli บริเวณกระเพาะอาหาร (เป็นโรคกระเพาะ)
ประวัติคนในครอบครัวและอายุ
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- อายุสูงขึ้น มีแนวโน้มเสี่ยงมากขึ้น
วิธีป้องกัน
พื้นฐานความแข็งแรง
- ตรวจสุขภาพทุกปี แม้ไม่มีอาการผิดปกติ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสมลพิษ สารเคมี โดยตรง
- เป็นโรคที่รักษาได้ ก็รักษา เช่น โรคกระเพาะ
การวินิจฉัย และการแบ่งระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ประเมินแนวการรักษา
คำนึงถึงตัวคนไข้ โรคประจำตัว การแพ้ยา
คำนึงถึงชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และระยะของโรค ซึ่งสัมพันธ์กับระยะเวลาที่ต้องใช้ในการรักษา
แนวทางการรักษา
แนวทางการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีหลายวิธี โดยแพทย์จะพิจารณาตามสภาพร่างกายผู้ป่วย และระยะของโรค เพื่อการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยแบ่งการรักษาออกเป็น 5 กลุ่มการรักษา ได้แก่
- การเฝ้าระวังโรค (Watch & wait)
- การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
- การฉายรังสี (Radiation therapy) : เพื่อช่วยลดการใช้ยาเคมีบำบัด
- ในระยะ 3 – 4 อาจลดการฉายแสงลง เพราะจะมุ่งรักษาทางร่างกายมากกว่าการรักษาเฉพาะที่
- การให้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted cancer therapies) : แพทย์จะพิจารณาว่าชนิดโรคที่ผู้ป่วยเป็นนั้นมีตัวยาที่รักษาได้หรือไม่
- การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด หรือสเต็มเซลล์ (Stem cell transplantation)
- มักทำเมื่อเกิดการกลับมาเป็นซ้ำ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเหมาะกับยาพุ่งเป้าชนิดไหน
แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและตรวจสอบว่าชนิดโรคที่เราเป็นตรงกับยาพุ่งเป้าชนิดไหน มียาหรือไม่ หรือดูจากผลการย้อมเซลล์ ว่าตรงกับยาพุ่งเป้าชนิดใด ทั้งนี้ หลังจากใช้ยาไปแล้วแพทย์จะประเมินอีกครั้งเมื่อทำการรักษาไปประมาณครึ่งทาง ว่ายาพุ่งเป้าที่ใช้ส่งผลทำให้โรคสงบหรืออาการลดลงหรือไม่ หากยังคงเป็นมากขึ้น อาจแสดงว่ายาชนิดนั้นไม่ส่งผลในการรักษา และต้องพิจารณาเปลี่ยนตัวยาต่อไป
ต่อมน้ำเหลือง ตรวจเองได้
เพียง 60 วินาทีต่อเดือน ก็ห่างไกลโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้
ผู้ป่วยระยะแรกมักไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเพราะอาการดูเหมือนโรคทั่วไปมาก แต่ถ้ารู้ทันไว ก็มีโอกาสหายขาดได้ เพียง 60 วินาทีต่อเดือน ก็ห่างไกลโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ เพราะถ้าคลำเจอตุ่มแต่แรก >95% ไม่ใช่มะเร็ง และยุบไปเอง
ตรวจต่อมน้ำเหลืองด้วยตัวเอง ทำอย่างไร
ฟังคุณหมอเล่าถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดจากอะไร
- มีกี่ชนิดและมีวิธีการรักษาแบบไหนได้บ้าง
- อาการต้องสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ปัจจัยเสี่ยงหรือสาเหตุมาจากอะไร
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองกับมะเร็งที่ลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองต่างกันอย่างไร
พบความรู้และข้อแนะนำดีๆได้จาก
รศ.พญ.พิมพ์ใจ นิภารักษ์
แพทย์อายุรศาสตร์ สาขาโลหิตวิทยา รพ.รามาธิบดี
สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย
มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง
Thai Cancer Society
อยากรู้เกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มเติม อ่านที่เอกสารข้างล่างนี้ได้เลย
ในเอกสารมีเนื้อหาดังนี้
- มารู้จักมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกันเถอะ
- อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- แนวทางการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- การดูแลรักษาตนเอง
Download
- Lymphoma มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- (2 หน้า)
- Lymphoma book มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- (ละเอียด แต่มีภาพประกอบน่ารัก เข้าใจง่าย)
เข้าใจเพิ่มเติม
- ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดูแลอย่างไร ทานอาหารและใช้ชีวิตอย่างไรให้ดี• ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดูแลอย่างไรดี • ผู้ป่วยสูงวัย ออกกำลังกาย และดูแลตัวเองอย่างไร • ดูแลจิตใจ เพิ่มกำลังใจอย่างไร
- ถามตอบ : ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และการดูแล💭 ยาพุ่งเป้า
💭 สูตรยาต่างๆ
💭 ไม่ตอบสนองต่อการรักษา ทำอย่างไร
💭 ระยะสุดท้าย ดูแลอย่างไร
💭 ทานอะไรแล้วดี - มะเร็งเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์แบบเรื้อรัง ชนิดบีเซลล์ (CLL) / มะเร็งต่อมน้ำเหลือง SLLเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดแบ่งตัวช้า เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ โดยมีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างเดินทางในกระแสเลือดจนกลายเป็นมะเร็ง
- ต่อมน้ำเหลือง เช็คส่วนเกินอย่างไรตรวจเจอ ‘ตุ่มส่วนเกิน’ ไว รักษาหายขาดถึง 80% แค่ 60 วิต่อเดือน ก็ห่างไกลมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้
- “ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข” 2021สัมมนาออนไลน์ Webinar มะเร็งต่อมน้ำเหลือง “ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข” : Miracle is all around