มะเร็งต่อมน้ำเหลือง CLL

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์แบบเรื้อรัง ชนิดบีเซลล์ (CLL) / มะเร็งต่อมน้ำเหลือง SLL

เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดแบ่งตัวช้า เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ โดยลักษณะโรคมีได้ 2 รูปแบบ คือ

  • เม็ดเลือดผิดปกติอยู่ในเลือดเป็นหลัก : CLL (Chronic Lymphocytic Leukemia)
  • เม็ดเลือดผิดปกติอยู่ในต่อมน้ำเหลืองเป็นหลัก : SLL (Small Lymphocytic Lymphoma)

โดยปกติแล้วลิมโฟไซต์จะเกิดจากไขกระดูก และมีหน้าที่เดินทางไปที่ต่อมน้ำเหลืองผ่านกระแสเลือด เพื่อพัฒนาตนเองให้แข็งแรงขึ้นสำหรับการต่อสู้กับเชื้อโรค

ดังนั้นความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางในกระแสเลือดนี้จึงส่งผลทำให้กลายเป็นมะเร็งในระบบเลือดหรือชนิด CLL แต่หากมีความปกติตอนที่ไปอยู่ในไขกระดูกแล้ว ก็จะเรียกว่าเป็นชนิด SLL

ทั้งนี้ทั้ง 2 โรคจัดเป็นเซลล์แบบเดียวกัน ลักษณะอาการของคนไข้จึงอาจมีได้ 2 รูปแบบ คือ เม็ดเลือดขาวสูงขึ้น แล้วตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในต่อมน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลืองโต เมื่อตัดออกมาแล้วเป็นเนื้องอกต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์แบบเรื้อรัง ชนิดบีเซลล์ (CLL)

  • พบเม็ดเลือดขาวชนิด “บีเซลล์ ลิมโฟไซต์” สูงขึ้นในเลือด
  • ส่วนมากตรวจพบจากการตรวจเลือด
  • อาจจะมีหรือไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต หรือม้ามโต

ทั้งนี้การที่ตรวจพบเม็ดเลือดขาวสูงขึ้น หรือเม็ดเลือดขาวกินเม็ดเลือดแดง อาจเป็นสาเหตุการเกิดโรคได้หลายแบบ ไม่จำกัดเฉพาะการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเท่านั้น

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง CLL

อาการของผู้ป่วย

  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ซีด โลหิตจาง
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • มีไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน
  • ติดเชื้อบ่อยขึ้น เนื่องจากโดยปกติเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์มีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค ภูมิคุ้มกันจึงลดลง

มีจุดเลือดหรือก้อน

  • มีจุดเลือดออกตามตัว มีเลือดออกผิดปกติ ปัสสาวะเป็นเลือด
  • มีก้อนตามตัว ท้องโต ตับ ม้ามโต

ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการอาจเกิดจากการตรวจพบโดยบังเอิญ

การวินิจฉัย

เจาะเลือด และ/หรือเจาะไขกระดูกเพื่อตรวจเพิ่มเติมในแง่ลึก โดยเป็นการตรวจเฉพาะเพื่อดูว่าเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ ประมาณ 1 สัปดาห์จะทราบผล

หลังจากได้รับการวินิจฉัย :

  • ตรวจเลือด และ/หรือเอกซเรย์ เพื่อกำหนดว่าผู้ป่วยเป็นระยะใด อาจทำ CT Scan หรือ PET/CT
    • ดูข้อบ่งชี้ในการรักษา และดูความพร้อมในการรักษาและเลือกวิธีการรักษา
  • ตรวจการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมเพื่อช่วยในการบอกการพยากรณ์โรคและเลือกวิธีการรักษา

น่าเป็นห่วงแค่ไหน

อัตราการรอดของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้จัดว่าค่อนข้างดี เนื่องจากเป็นมะเร็งที่เติบโตช้า โดยยิ่งอายุน้อยยิ่งมีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่า ผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 มีอัตราการรอดอยู่ที่ 95% ผู้ที่อายุมากกว่า 80 มีอัตราการรอด 65%

การแบ่งระยะโรค

มี 3 ระยะ โดยดูจาก

  • ค่าความเข้มข้นเลือด ค่าเกล็ดเลือด
  • ขนาด และจำนวนต่อมน้ำเหลือง
  • ตับ ม้าม

การแบ่งการพยากรณ์โรค

  • แบ่งกลุ่มตามผลการตรวจเลือด ตรวจพันธุกรรม และตรวจทางโมเลกุล
  • แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ตั้งแต่ดีมากไปแย่มาก

โดยส่วนใหญ่หากผู้ป่วยยังไม่ถึงจุดที่ต้องรักษาก็ยังไม่จำเป็นต้องทำการพยากรณ์โรค หากต้องรับการรักษาจึงจะทำเพื่อกำหนดระดับการรักษา และระบุตัวเลือกของยาที่ต้องใช้ตามความเหมาะสม

การรักษา

ขึ้นกับข้อบ่งชี้ของการรักษา โดยพิจารณาจาก

  • อัตราเร็วของการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง หากเร็วก็ต้องรีบรักษา
  • อาการของผู้ป่วย หากคุณภาพชีวิตโดยรวมยังดีอยู่ก็อาจยังไม่ทำการรักษา
  • ความกังวลใจของผู้ป่วย

สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา จะแนะนำให้ “สังเกตอาการ” ว่ามีความผิดปกติอะไร กระทบอย่างไรกับการดำเนินชีวิต

วิธีการรักษาในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้

รักษาด้วยยาพุ่งเป้าชนิดรับประทาน

  • ผลการรักษาดี ผลข้างเคียงน้อย
  • ราคาสูง ต้องรับประทานยาไปเรื่อยๆ ถ้ายังตอบสนองต่อการรักษา
    การใช้ยาพุ่งเป้ามีความมุ่งหมายไปที่การควบคุมโรค ไม่ใช่ทำให้โรคหายไป จึงต้องรักษาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มีโอกาสหยุดยาได้ค่อนข้างน้อย
  • ร้อยละ 80 – 90 มีผลตอบสนองต่อการรักษา

รักษาด้วยยาพุ่งเป้าชนิดฉีด ร่วมกับยาเคมีบำบัด

  • ผลการรักษาปานกลางถึงดี
  • ผลข้างเคียงสูงกว่ายาพุ่งเป้าชนิดรับประทาน
  • สามารถหยุดยาได้ แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด

  • ให้เซลล์ต้นกำเนิดของผู้ป่วย โดยใช้เซลล์ของญาติที่มีพันธุกรรมที่เข้ากันเป็นหลัก
  • ใช้ในกรณีที่การรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล
  • มีโอกาสหายขาดสูง แต่ผลข้างเคียงสูง ไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยสูงอายุ

ทำความเข้าใจมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มเติมได้ที่ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง


สรุปเนื้อหา และรับชม Live ย้อนหลัง

📖 สรุปเนื้อหาจากกิจกรรม

🎥 รับชม Live ย้อนหลังของบทความนี้

จากโครงการ Thai Cancer Academy
ตอน รู้จัก รับมือ รักษา มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (CCL)

โดย รศ.นพ. เอกพันธ์ ครุพงศ์
รศ.พอ.นพ. วิเชียร มงคลศรีตระกูล
พร้อมด้วยผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และผู้ป่วยมะเร็ง CLL

-+=