มะเร็งปอด
ตรวจอย่างไรได้บ้าง
![](https://thaicancersociety.com/wp-content/uploads/i_cancer-lung.png)
การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอด
![การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอด](https://thaicancersociety.com/wp-content/uploads/04-10-lung-cancer-diagnosis-infographic-2000x1500.jpg)
การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
เรียบเรียงและเขียนโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวิชชนา จำรูญรัตน์
หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
การตรวจ CT Scan
การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดนอกจากการทำ CT scan หรือการสแกนด้วยคอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีการตรวจวินิจฉัยทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตรวจวินิจฉัยในผู้ป่วยบางราย ซึ่งทำได้โดยการนำสารเภสัชรังสีชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย และถ่ายภาพสารนั้นๆ การตรวจที่ใช้บ่อยในโรคมะเร็งปอด ได้แก่
FDG PET/CT
สารเภสัชรังสีที่ใช้ในการตรวจนี้ คือ F-18 FDG (F-18 Fluoro Deoxy Glucose) หรือมักเรียกย่อๆ ว่า FDG (เอฟดีจี) เป็นสารแบบหนึ่งของนํ้าตาลกลูโคส เมื่อให้เข้าไปในร่างกายคนเรา โดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำจะสามารถติดตาม FDG ในร่างกายได้โดยเครื่องมือถ่ายภาพที่เรียกว่า PET (Positron Emission Tomography) ซึ่งปัจจุบันจะเป็นเครื่อง PET/CT มะเร็งปอดส่วนใหญ่ใช้ FDG สูง ดังนั้น เราจึงใช้สารนี้ในการตรวจวินิจฉัยการกระจายของโรค เพื่อประเมินระยะของตัวโรค ประเมินสภาวะของต่อมนํ้าเหลืองในช่องอกและสามารถที่จะใช้ช่วยในการตัดสินใจการรักษา ว่าสามารถที่จะผ่าตัดได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังใช้ในการประเมินการกลับเป็นซํ้า และประเมินผลการรักษาของมะเร็งปอดได้ดี
การสแกนกระดูก Bone scan
การสแกนกระดูกโดยใช้สารเภสัชรังสี ซึ่งสารที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Tc-99m MDP (Tc-99m Methyl DiPhosphonate) หรือเรียกย่อๆ ว่า MDP (เอ็มดีพี) เมื่อให้เข้าไปในร่างกายของคนเรา โดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ จะไปจับที่กระดูก และสามารถติดตามสารนี้ในร่างกายได้โดยเครื่องมือถ่ายภาพที่เรียกว่า Gamma camera หรือ SPECT (Single Photon Emission Computed Tomography) ถ้ามีการกระจายของมะเร็งไปยังกระดูก ก็มักจะเห็นสารนี้ในตำแหน่งนั้นๆ มากกว่าปกติ แม้ว่าการตรวจ FDG PET/CT สามารถเห็นรอยโรคที่กระดูกอยู่แล้ว แต่รอยโรคที่กระดูกบางชนิด อาจเห็นได้ดีกว่าใน Bone scan
การตรวจหายีนกลายพันธุ์ (Biomarker)
![](https://thaicancersociety.com/wp-content/uploads/lung-cancer-infographic-2020-11-2000x1500.jpg)
ข้อมูลจากการตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดในการวินิจฉัยโรคมะเร็งปอด เนื่องจากผลชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาจะสามารถยืนยันการวินิจฉัยโรคมะเร็ง และสามารถแยกชนิดของมะเร็งได้ว่าเป็นมะเร็งชนิดใด หรือเป็นมะเร็งของอวัยวะอื่นที่แพร่กระจายที่ปอด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการเลือกวิธีการรักษาจำเพาะต่อไป
ตรวจสุขภาพประจำปี เป็นประจำ
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ ยังสามารถตรวจพบความผิดปกติในเบื้องต้น ได้จากการเอกซเรย์ปอด เช่น สามารถตรวจพบจุดหรือก้อนในปอดได้ หากพบว่าเริ่มมีก้อนหรือจุดในปอด สามารถตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถหายขาดได้ แต่หากปล่อยให้ก้อนหรือจุดในปอดโตขึ้น มะเร็งจะลุกลามยากต่อการรักษาและเป็นอันตรายถึงชีวิต
![Read more](https://thaicancersociety.com/wp-content/uploads/read-more-sit-big2.png)