มีลำไส้เปิดหน้าท้อง จะอยู่อย่างไรให้ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน
เนื้อหาบางส่วนจากการอบรมในโครงการ Thai Cancer Academy
ตอน เมื่อมีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง : อยู่อย่างไรให้ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน
โดย
👩⚕️ พว. จุฬาพร ประสังสิต : พยาบาลผู้ชำนาญการพิเศษ และผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง
👩⚕️ พว. กาญจนา รุ่งแสงจันทร์ : พยาบาลผู้ชำนาญการพิเศษ
👩⚕️ คุณสมบัติ หทัยเปี่ยมสุข : ประธานเครือข่ายมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก(ภาคประชาชน)
ลำไส้เปิดทางหน้าท้อง หรือทวารเทียม
การ “มีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง” ที่กล่าวถึงในบทความนี้ใช้ในความหมายเดียวกันกับการ “มีทวารเทียม” ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่ผ่าตัดเอาเนื้องอกหรือมะเร็งในลำไส้ออกไปแล้วต้องเปิดทางทวารใหม่มาทดแทนการใช้ช่องทางทวารปกติในการขับถ่าย เนื่องจากผู้สอนเห็นว่าสิ่งนี้ก็เป็นอวัยวะปกติส่วนหนึ่งของร่างกาย เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีการใช้คำนี้เรียกมาเป็นเวลานานกว่า 25 ปี
ทำไมต้องมีลำไส้เปิดหน้าท้อง ?
จากภาพด้านบน เป็นลักษณะของลำไส้ใหญ่ที่มีการวางตัวหลายทิศทาง (ขึ้น-ขวาง-ลง) การเกิดเนื้องอกขึ้นมาในบริเวณที่แตกต่างกันก็ส่งผลต่อการผ่าตัดและในบางตำแหน่งอาจทำให้ไม่สามารถต่อลำไส้ให้กลับมาทำงานตามช่องทางเดิมได้ จึงต้องทำการเปิดลำไส้ทางหน้าท้องในบริเวณที่แตกต่างกัน
เนื้องอกอยู่บริเวณลำไส้ตรงใกล้รูทวารหนัก
หากก้อนเนื้องอกขึ้นอยู่ที่บริเวณลำไส้ตรงใกล้รูทวารหนัก จะทำให้ไม่สามารถตัดต่อกลับคืนเหมือนเดิมได้ และจำเป็นต้องผ่าตัดเปิดลำไส้ออกมาบริเวณหน้าท้อง
เนื้องอกอยู่ระหว่างลำไส้ตรงกับลำไส้ส่วนคด
หากก้อนเนื้องอกเกิดบริเวณระหว่างลำไส้ตรง กับลำไส้ส่วนคด บางครั้งก็ต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้องเช่นเดียวกัน
เนื้องอกอุดตันบริเวณลำไส้หลายส่วน
หากมีก้อนเนื้องอกอุดตันบริเวณลำไส้หลายส่วน ทำให้อุจจาระไม่สามารถถูกขับถ่ายออกมาตามปกติได้ เป็นสาเหตุที่ต้องทำการเปิดหน้าท้องมากกว่า 1 จุด โดยบางครั้งเป็นการผ่าตัดในกรณีฉุกเฉินเพื่อทำให้อุจจาระสามารถออกมาได้ และบางจุดอาจทำเพื่อเป็นช่องทางออกของเมือกภายในลำไส้
ลักษณะรูเปิดของลำไส้เปิดหน้าท้อง
ลำไส้ที่โผล่ออกมาหลังการผ่าตัด อาจมีสีแดงลักษณะเหมือนเป็นแผล ซึ่งเป็นลักษณะตามปกติของเนื้อเยื่อลำไส้
เหมือนที่ริมฝีปากกับผิวหนังเรามีเนื้อเยื่อที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง
แบบรูเดียว
แบบ 2 รู (รูซ้าย และรูขวา)
โดยปกติแล้วรูที่ถึงก่อนคือรูที่อุจจาระออก ส่วนอีกรูจะเป็นช่องทางออกของเยื่อเมือกที่ลำไส้ทำหน้าที่ผลิตออกมาตามการทำงานปกติของลำไส้
ลักษณะและสีของอุจจาระแต่ละตำแหน่งแตกต่างกันอย่างไร
ลักษณะของอุจจาระโดยทั่วไปมีประมาณ 7 รูปแบบ และมีหลายสี ซึ่งสีของอุจจาระจะเป็นตัวช่วยบ่งบอกว่าเราควรเพิ่มหรือลดการทานอาหารประเภทไหน โดยอุจจาระในแต่ละตำแหน่งของลำไส้ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน
ลักษณะของอุจจาระ บอกอะไร
เราสามารถมีสุขภาพดีขึ้นได้ จากการสังเกตอุจจาระ และปรับตัว
- อุจจาระเป็นลำยาว นิ่ม ผิวแตกขรุขระ หรือผิวเรียบ : ปกติ
- อุจจาระเป็นก้อนนิ่มๆ สั้นๆ : รับประทานพวกกากใยน้อย
- อุจจาระเป็นน้ำ อุจจาระอ่อน เหลว เละ
- อุจจาระเป็นลำ ก้อนแข็ง : ท้องผูก
- อุจจาระเป็นก้อน สั้นๆ คล้ายลูกกระสุน : ท้องผูก
สีของอุจจาระ บอกอะไร
- สีน้ำตาล : ปกติ
- สีเขียว : อาหารผ่านลำไส้ใหญ่เร็ว หรือรับประทานผักใบเขียวมากเกินไป
- สีเหลือง : มีความมัน มีกลิ่น หรือรับประทานอาหารประเภทไขมันมากเกินไป
- สีดำ : มีแผลหรือมีเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมาจากการรับประทานพวกธาตุเหล็ก
- สีอ่อน สีขาว หรือสีดินอ่อนๆ : มีการอุดตันของท่อทางเดินน้ำดี หรือการรับประทานยาบางชนิด
- มีคราบเลือด หรือมีสีแดง : มีแผลหรือเลือดออกในทางเดินอาหาร ควรมาตรวจที่โรงพยาบาล
ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ อุจจาระมีลักษณะอย่างไร
ผู้ที่ผ่าตัดลำไส้เปิดทางหน้าท้อง จะมีตำแหน่งของทวารใหม่ที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้อุจจาระที่ออกมามีลักษณะที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน
ลำไส้เล็ก : อุจจาระจะมีลักษณะเป็นน้ำ เนื่องจากยังไม่ผ่านส่วนลำไส้ใหญ่ที่ช่วยดูดน้ำกลับ
ลำไส้ใหญ่ : อุจจาระจะมีลักษณะเป็นก้อน ค่อนข้างแข็ง
ถุงรองรับอุจจาระมีกี่แบบ จะเลือกใช้อย่างไร ?
โดยพื้นฐานแล้วถุงรองรับอุจจาระจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ถุงรองรับอุจจาระชนิดปลายเปิด และถุงรองรับอุจจาระชนิดปลายปิด ในส่วนของปัสสาวะก็จะมีถุงรองรับปัสสาวะซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันไปอีกที
ถุงรองรับอุจจาระชนิดปลายเปิด
มีส่วนปลายเปิด สามารถเปิดเพื่อเทอุจจาระออกมาได้
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบถุงสองชิ้น และแบบถุงชิ้นเดียว
แบบถุงสองชิ้น ประกอบด้วย
- แป้นรองที่ติดกับผิวหนัง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งจะใช้ติดกับหน้าท้อง
- ถุงที่รองรับอุจจาระ
โดยทั้งสองส่วนจะต้องมีขนาดที่ติดกันได้แบบพอดี
แบบถุงชิ้นเดียว
ส่วนที่ติดกับหน้าท้องเราจะเป็นส่วนประกอบในชิ้นเดียวกันกับตัวถุงรองรับอุจจาระ ซึ่งจะประกอบด้วย
- แผ่นปกป้องผิวหนัง (Skin Barrier)
- แถบกาว (Adhesive Tape)
- ส่วนปลายเปิดสำหรับเทอุจจาระออก
ถุงรองรับอุจจาระชนิดปลายปิด
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบถุงสองชิ้น และแบบถุงชิ้นเดียวเช่นเดียวกัน แต่ตรงส่วนปลายทางออกจะมีลักษณะเล็กมนและปิดตาย ไม่สามารถเปิดเพื่อนำอุจจาระออกมาได้
ถุงรองรับปัสสาวะ
มีทั้งแบบถุงสองชิ้น และแบบถุงชิ้นเดียว
ส่วนปลายจะมีลักษณะที่สามารถต่อกับท่อระบายได้ มีระบบป้องกันน้ำไหลย้อนกลับ ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นด้วยตา
การเลือกถุงรองรับอุจจาระ
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการมีลำไส้เปิดทางหน้าท้องด้วย
ระยะแรกหลังการผ่าตัด
- ควรใช้ถุงรองรับอุจจาระชนิดใสปลายเปิด เนื่องจากจะยังมีอาการเจ็บแผล และแบบปลายเปิดจะช่วยให้เทอุจจาระได้สะดวก
- หากใช้แบบ 2 ชิ้นจะทำให้เจ็บ
- การใช้ถุงแบบใสจะช่วยให้มองเห็นลักษณะของลำไส้เปิดหน้าท้องว่ามีความปกติไหม หากมีสีคล้ำดำควรต้องรีบแจ้งแพทย์
เลือกใช้ถุงแบบไหนดี
เลือกให้เหมาะกับสรีระ ชีวิตประจำวัน และปิดถุงได้ถนัด
เหมาะกับขนาด/ชนิดของรูเปิด
หากมีขนาดใหญ่ ควรเลือกใช้ถุงแป้นที่มีขนาดใหญ่ (รูเปิดขนาดใหญ่มักเป็นรูเปิดบริเวณลำไส้ส่วนขวาง)
เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน
เช่น ต้องเดินทาง ออกไปทำงานข้างนอกประจำ อาจเลือกใช้แบบถุง 2 ชิ้นที่สามารถเปลี่ยนถุงใบใหม่ได้สะดวก เป็นต้น
ปิดถุงได้ถนัด
ซึ่งอาจสัมพันธ์กับประสิทธิภาพความคล่องตัวของร่างกาย เช่น สายตา การขยับใช้มือหยิบจับ
หากมีรอยพับรอยย่นบริเวณหน้าท้อง ไม่ควรใช้ถุงแบบ 2 ชิ้น
เพราะมีขอบพลาสติกที่อาจทำให้ไม่แนบสนิทไปกับผิว อุจจาระอาจรั่วซึมออกมาได้
อุปกรณ์และยาที่ไม่แนะนำให้ใช้
ถุงชิ้นเดียว ปลายปิด ชนิดแถบกาว
ไม่แนะนำให้ใช้ถุงชิ้นเดียว ปลายปิด ชนิดแถบกาว เนื่องจาก
- กาวมีความเหนียว ไม่มีตัวปกป้องผิวหนัง เวลาลอกทำให้ผิวหนังถลอกเป็นแผลได้
- ไม่ใช้ในกรณีที่อุจจาระเป็นน้ำ เพราะจะเซาะกาวออกมา
ใช้ในกรณีอุจจาระเป็นก้อนนิ่มๆ
ทิงเจอร์เบนซอยน์ (Benzoin coundpound tincture)
- เป็นน้ำ สีน้ำตาลเข้ม
- มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและมีความเหนียว เพิ่มการยึดติดของแถบกาว
- ปัจจุบันไม่ใช้ เนื่องจากทำให้ผิวหนังสีคล้ำ
- ระคายเคืองได้ง่าย แสบร้อน
ตัดแป้นรองถุงอย่างไร
ตัดกว้างจากลำไส้ประมาณ 2 มิลลิเมตร
- ถ้าตัดแคบไป : ทำให้ขอบลำไส้เลือดออกได้เวลาที่ลำไส้มีการเคลื่อนไหว
- ถ้าตัดกว้างไป : ผิวหนังที่สัมผัสกับอุจจาระหรือปัสสาวะจะเกิดแผลได้
ภาพด้านซ้าย : เป็นลักษณะการตัดตัวแป้นที่ผิด (เกิน 2 มิลลิเมตรรอบคอลำไส้) ซึ่งทำให้ขอบลำไส้อาจถูกกดเป็นแผล มีอุจจาระรั่วซึมออกมา ผิวหนังที่สัมผัสอุจจาระเกิดการระคายเคือง และเกิดปัญหาตามมามากมาย
ภาพด้านขวา : เป็นลักษณะการตัดแป้นรองถุงที่ถูกต้อง การเลือกแป้นที่ดีควรเลือกขนาดที่ใหญ่กว่าขนาดของลำไส้เราประมาณ 1 ระดับ
แผลลำไส้จะหายเมื่อไร
ลำไส้ที่โผล่ออกมาหลังการผ่าตัด อาจมีสีแดงลักษณะเหมือนเป็นแผล แต่ความจริงแล้วคือปลายลำไส้ที่เป็นปกติ ซึ่งจะอยู่กับเราในลักษณะนี้ไปตลอด โดยลำไส้นี้จะมีการยุบบวมและขนาดเริ่มคงที่หลังการผ่าตัดประมาณ 6-8 สัปดาห์
หากมีเลือดออกบริเวณผิวลำไส้ ก็ใช้สำลีกดเบาๆ
บริเวณที่เปิดลำไส้จะมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเยอะเป็นปกติ หากมีเลือดออกบริเวณผิวของลำไส้ในขณะที่เช็ดก็ไม่ต้องกังวล เพียงใช้สำลีกดเบาๆ เลือดก็จะหยุด และสามารถใช้ผงแป้งปกป้องผิวหนังโดยโรยตรงบริเวณที่เลือดออกได้
ดูแลลำไส้เปิดอย่างไร ในชีวิตประจำวัน
อาบน้ำอย่างไร เมื่อมีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง
- อาบน้ำได้ปกติ ใช้ได้ทั้งฝักบัว หรือขันตักอาบ เพื่อให้ของเสียที่ออกมาจากลำไส้ถูกชำระล้างผ่านไปตามน้ำ
- ไม่ควรอาบแบบแช่ในอ่าง เพราะจะทำให้ของเสียที่ออกมาไหลเวียนอยู่ในอ่าง
- ธรรมชาติของลำไส้จะเป็นช่องทางออกที่บีบน้ำและอุจจาระออกมา จึงไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าลำไส้
- หากไม่ถอดถุงอาบน้ำ สามารถใช้แผ่นพลาสติกคลุมทับถุงรองรับอุจจาระ และใช้เทปกันน้ำแปะป้องกันได้
การอาบน้ำในผู้ที่ผ่าตัดมีทวารใหม่
- อาบน้ำได้ตามปกติ ทั้งใส่ถุงและถอดถุงอาบ
- ควรอาบเมื่อแผลแห้งแล้ว
- ควรให้น้ำเข้ามาทางด้านหลัง
- หลังอาบเสร็จ ควรซับน้ำรอบๆ แป้นให้แห้ง
ใส่เสื้อผ้าอย่างไร เมื่อมีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง
หลักการสำคัญ คือ ต้องไม่ให้อะไรไปทับลำไส้ที่เปิดทางหน้าท้อง
โดยสามารถเปิดโชว์ได้ถ้าเป็นถุงแบบขุ่น หรือใช้ผ้าคลุมทับเพื่อความสวยงามได้
ทำงานอะไรได้บ้าง เมื่อมีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง
สามารถทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เพียงแต่มีสิ่งที่ควรระวังบางอย่างตามสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป
สิ่งที่ควรระวัง : หลีกเลี่ยง
- การปะทะบริเวณหน้าท้อง
- การยกของหนัก การเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือการทำกิจกรรมที่สร้างแรงดันในท้องมาก เพื่อป้องกันภาวะลำไส้ยื่นยาว หรือภาวะลำไส้เลื่อนบริเวณที่เปิดทางหน้าท้อง
รับประทานอะไรได้บ้าง เมื่อมีลำไส้เปิดทางหน้าท้อง
หลักสำคัญ คือ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เหมือนเดิม เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี พร้อมรับการรักษาในระยะยาว
ข้อแนะนำ :
- ควรเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ชะอม เพราะทำให้เวลาเปิดเปลี่ยนถ่ายถุงอุจจาระมีกลิ่นออกมา หากไม่ติดขัดในเรื่องนี้ก็สามารถทานได้ปกติ
- อาหารรสเผ็ด เสี่ยงต่อการท้องเสีย ทำให้อุจจาระเหลว อาจทำให้ไม่สะดวกในการดูแล หากไม่ติดขัดในเรื่องนี้ก็สามารถทานได้ปกติ
- น้ำอัดลม จะทำให้เกิดแก๊สเยอะ ถุงจะพองเต็มเร็ว
- นม สามารถทานได้ ช่วยเสริมสร้างโปรตีนให้กับเรา
- ผู้ที่เปิดลำไส้เล็กทางหน้าท้อง ควรระวังอาหารประเภทเมล็ดถั่วธัญพืช หรือก้านผักใหญ่ๆ เพราะหากเคี้ยวไม่ละเอียดอาจทำให้เกิดการอุดตันได้
ออกกำลังกายอย่างไร
สามารถทำได้ใน 6-8 สัปดาห์หลังผ่าตัด โดยค่อยๆ เริ่ม แต่ให้ยกเว้นกิจกรรมที่เกิดแรงเบ่งในช่องท้อง เพราะอาจทำให้ไส้เลื่อนได้
ดูแลลำไส้เปิดอย่างไร ในชีวิตประจำวัน
ควรเปลี่ยนถุงรองรับอุจจาระเมื่อไหร่ ?
- เปลี่ยนถุงทันทีที่เริ่มรั่วหรือซึม หรือแป้นเซาะ ลอก
- เปลี่ยนถุงทุก 3-5 วัน ขึ้นกับลักษณะของเสีย ถ้ามีลักษณะแข็งเป็นลำอาจเก็บนานหน่อยได้ ถ้าเป็นน้ำก็ควรเปลี่ยนเร็วหน่อย
- ควรเทอุจจาระเมื่อมีปริมาณ 1 ใน 3 ของถุง เพื่อป้องกันการรั่วหรือซึมก่อนกำหนด
ลำไส้เปิดทางหน้าท้อง ทำความสะอาดอย่างไร
เสมือนการทำความสะอาดรูทวารก้นของเรา
- ใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดลำไส้เปิดทางหน้าท้องและผิวหนังโดยรอบ เพราะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเราปกติ เสมือนการทำความสะอาดรูทวารก้นของเรา
- ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ เบตาดีน ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีมอยเจอไรเซอร์ เพราะทำให้ผิวหนังลื่น ติดถุงไม่อยู่
ล้างถุงอย่างไร
ผู้ที่มีลำไส้เปิดทางหน้าท้องมานาน มักชอบติดถุงแบบตั้งตรง เนื่องจากเวลาเทของเสียออกด้วยตัวเองจะทำได้ง่าย
การทำความสะอาดถุงแบบชิ้นเดียว
- เปิดถุง เทอุจจาระลงชักโครก
- เช็ดปลายถุงให้สะอาด ช่วยลดกลิ่นได้ อาจใช้ทิชชู่เปียกเช็ด แล้วซับให้แห้ง
- สามารถใช้อุปกรณ์เสริมเป็นขวดน้ำที่มีปลายยาว (ตามภาพด้านบน) ค่อยๆ ฉีดเข้าไปในถุง เพื่อไล่อุจจาระที่ติดอยู่ตามถุงให้ออกมาได้
- หลีกเลี่ยง : การเทน้ำเข้าไปในถุง แล้วเขย่า เพื่อล้าง เพราะอาจเสี่ยงต่อการที่น้ำจะเข้าไปเซาะตรงบริเวณแป้นได้ และอาจทำให้เกิดความชื้น หลุดง่าย
การทำความสะอาดถุงแบบสองชิ้น
ใช้น้ำยาล้างจาน ผึ่งลมให้แห้ง ไม่ตากแดด
ล้าง
- แกะถุงออกจากแป้นที่ติดตัว และนำถุงออกไปล้าง
- ควรใช้น้ำยาล้างจานล้าง เพราะช่วยขจัดคราบมันจากอุจจาระได้ดี
- การใช้สบู่อาจทำให้มีเมือกเหนียวติดอยู่
- ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ แต่อาจมีความเหนียว ควรผสมน้ำก่อน
ตาก
- ควรผึ่งลมให้แห้ง ไม่ตากแดดโดยตรงเพราะจะทำให้พลาสติกเสื่อม
- เวลาตากให้หาสิ่งที่ช่วยถ่างถุงให้ผิวไม่ติดกัน เช่น ตะเกียบ เพื่อให้ลมผ่าน
วิธีป้องกันอุจจาระติดถุง
ควรใช้เบบี้ออยล์ในการทำความสะอาด โดยหยดลงไปตรงกลางรูถุง ขยี้เล็กน้อย เมื่ออุจจาระออกมาก็จะไม่ติดถุง หรืออาจใช้สำลีก้านยาวในการเข้าไปเช็ดในถุงได้
ปรับกลิ่น และทำให้ถุงติดดี
ไม่อยากให้มีกลิ่น ทำอย่างไรได้บ้าง
- คาร์บอน
- ใช้แผ่นคาร์บอน (แถบดำ ๆ ที่ติดตรงถุง) แต่หากเจอความชื้น ประสิทธิภาพก็จะลดลง
- ถุงคาร์บอน ใช้โดยใส่ลงไปในถุง แต่มีข้อเสียคือมักจะแตกออก
- มินต์หรือเมนทอล
- ยาอมดับกลิ่นปาก ใช้โดยใส่เข้าไปในถุง
- ใส่เม็ดมินต์ (Phudin hara) ลงในถุงรองรับเพื่อดับกลิ่น
- ยาสีฟัน ที่มีเมนทอล ใช้โดยบีบเข้าไปในถุงก็สามารถช่วยลดกลิ่นได้
- น้ำยาหยด หรือออยล์ดับกลิ่น : Ostomy pouch deodorant
สาเหตุของการปิดถุงแล้วหลุดบ่อย
เกิดได้จากหลายสาเหตุ ควรสังเกตตัวเองว่าที่ถุงหลุดเกิดจากกรณีใด เช่น
- ผิวหนังเปียก
- ไม่เทอุจจาระ
- โรยผงแป้งแล้วไม่เกลี่ยให้ดี จึงเป็นก้อน เมื่อติดถุงทับจึงไม่อยู่ อาจช่วยโดยการใช้สเปรย์พ่นทับได้
- ใช้ครีมแก้คันทาแล้วปิดถุง ควรรอให้แห้งก่อนปิด
มีแผล มีรอยแดง ควรทำอย่างไร
เมื่อเริ่มเป็นควรรีบดูแลรักษาทันที ไม่ควรปล่อยไว้นานเพราะอาจทำให้เป็นหนัก ลุกลามยิ่งขึ้น
เมื่อเป็นแผลบริเวณผิวหนังรอบลำไส้เปิดทางหน้าท้องควรทำอย่างไร ?
ลักษณะแผล มี 2 แบบ คือ
- ผิวหนังมีรอยแดง
- ผิวหนังลอกหลุดเป็นแผล
สาเหตุ :
- ผิวหนังสัมผัสกับอุจจาระเป็นเวลานาน น้ำย่อยในอุจจาระจึงไปทำลายผิวหนัง
- ล้างสบู่ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ออกไม่หมด
- ติดถุงนานเกินไป
- ตัดถุงกว้างเกินไป
ผิวหนังมีรอยแดง ควรทำอย่างไร
- ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะสามารถหายเองได้
- ทาด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดครีม (ต้องใช้ประเภทนี้เท่านั้น)
- พ่นด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดฟิล์ม
ผิวหนังลอกหลุดเป็นแผล รักษาอย่างไร
- ผงแป้ง : ช่วยควบคุมความชุ่มชื้น กระตุ้นการหายของแผล
- โรยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดผงแป้งบางๆ บริเวณรอยแผล เกลี่ยผงแป้งส่วนเกินออก
- ผงแป้งจะช่วยดูดซับความชื้น
- เปลี่ยนเป็นเจลปกป้องผิวหนังจากการสัมผัสอุจจาระ
- ฟิล์มปกป้องผิวหนัง : ช่วยปกป้องผิวหนังจากความชื้น
- พ่นด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดฟิล์ม
- ช่วยให้ผงแป้งติดกับรอยแผล
- สามารถระบายความชื้นได้บางส่วน
- เพสท์ปกป้องผิวหนัง : ช่วยควบคุมความชุ่มชื้น กระตุ้นการหายของแผล และปรับระดับผิว
- ทาทับด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดเพสท์ (paste)
- ช่วยปรับระดับผิวหนังรอบลำไส้เปิดทางหน้าท้องที่อาจสูงต่ำไม่เท่ากันให้เรียบเสมอกัน
- ช่วยให้ติดแน่นขึ้น
กรณีที่มีอุจจาระเป็นน้ำเหลวออกตลอดเวลา สามารถทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดเพทส์บางๆ บริเวณแผ่นปกป้องผิว
(Wound, Ostomy, Continence Nurses Society., 2012 / จุฬาพร ประสังสิต., 2558)
การเป็นผื่นแพ้ใต้แป้นรอง
ผิวหนังอักเสบเป็นแผลเปิด ขนาดแผลเท่ากับขนาดของแป้นรอง
- ควรตรวจสอบประวัติการแพ้
- ดูแลเหมือนผิวหนังลอกหลุดเป็นแผล
- ลองเปลี่ยนชนิดถุงรองรับอุจจาระ เพื่อหาแบบที่ไม่แพ้
ผิวหนังปิด มีผื่นแดง คันใต้แถบกาว
- ทายากลุ่มสเตียรอยด์บางๆ และรอให้แห้ง (สเตียรอยด์ช่วยต้านการอักเสบ)
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนใช้ยา เพราะสเตียรอยด์มีผลข้างเคียงหลายอย่าง
หากลำไส้เปิดอยู่ต่ำกว่าระดับผิวหนังควรทำอย่างไร
หากมีลักษณะของลำไส้เปิดอยู่ระดับผิวหนัง / ต่ำกว่าระดับผิวหนัง / รูลำไส้เปิดอยู่ระดับผิวหนัง จะทำให้มีโอกาสเกิดแผลได้ง่ายมาก ควรปรึกษาพยาบาลหรือแพทย์ผู้ดูแลเพื่อรับคำแนะนำ
วิธีแก้ : ใช้แป้นแบบมีก้นนูน
- ใช้แป้นแบบมีก้นนูน (มีทั้งแบบชิ้นเดียวและสองชิ้น) ตัวแป้นจะช่วยกดให้ผิวหนังต่ำลง
- เมื่อใช้แป้นก้นนูน ควรใช้เข็มขัดช่วยพยุงร่วมด้วย
หากมีภาวะลำไส้เปิดทางหน้าท้องยื่นยาวกว่าปกติ ควรทำอย่างไร ?
สาเหตุ
- ส่วนใหญ่พบในลำไส้เปิดทางหน้าท้องจากบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนขวาง หรือการไม่ได้เย็บลำไส้ติดกับผนังหน้าท้อง
- ผ่าตัดคว้านช่องเปิดใหญ่เกินไป
- ตำแหน่งของลำไส้เปิดทางหน้าท้องอยู่นอกกล้ามเนื้อกลางท้อง
- มีแรงดันในช่องท้องสูง
- กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอ ไม่แข็งแรง
- ลำไส้เปิดทางหน้าท้องยาวมากกว่า 6 เซนติเมตร เหนือระดับผิวหนัง
มี 2 ลักษณะ คือ
- ดันกลับได้
- ดันกลับไม่ได้
ลักษณะลำไส้เปิดทางหน้าท้องยาวผิดปกติที่ต้องพบแพทย์
- เป็นสีม่วง/ดำ
- ปวดมีแผล
- ไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้
แก้ไขอย่างไร
ลดความดันในช่องท้อง
นอนหงายให้ศีรษะสูงเล็กน้อย นานประมาณ 20 นาที
ช่วยให้หน้าท้องหย่อน ลดความดันในช่องท้อง
ประคบเย็น
ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น วางประคบบนลำไส้ 15 นาที
ช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลำไส้ยุบบวม
ใช้มือดัน
การดันลำไส้กลับบางครั้งอาจต้องใช้มือดันช่วยให้ยุบกลับลงไปด้วย หากไม่กล้าทำเองสามารถให้ทางโรงพยาบาลช่วยทำให้ได้
อุปกรณ์ช่วยให้สะดวกขึ้น
ผ้าพยุงหน้าท้อง
การใช้ผ้าพยุงหน้าท้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้หน้าท้องแข็งแรงและไม่ดันลำไส้ออกมา
เลือกใช้ถุงรองรับอุจจาระที่เหมาะสม
ไม่ควรใช้
ไม่ควรใช้ถุงรองรับอุจจาระแบบ 2 ชิ้นชนิดที่มีขอบแข็ง เพื่อป้องกันลำไส้ได้รับบาดเจ็บ
แบบที่แนะนำ
- ใช้ถุงรองรับอุจจาระที่มีแป้งรองขนาดใหญ่ มีความบางและยืดหยุ่นสูง
- ถุงขนาดใหญ่พอสำหรับรองรับลำไส้ที่ยื่นยาว
- ใส่ baby oil ช่วยหล่อลื่นระหว่างลำไส้กับถุงรองรับอุจจาระ
สรุปเนื้อหา และรับชม Live ย้อนหลัง
จากโครงการ Thai Cancer Academy
ตอน ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ : อยู่อย่างไรให้ทวารเทียมปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน
โดย
👨⚕️ พว. จุฬาพร ประสังสิต : พยาบาลผู้ชำนาญการพิเศษ และผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง
👨⚕️ พว. กาญจนา รุ่งแสงจันทร์ : พยาบาลผู้ชำนาญการพิเศษ
👨⚕️ คุณสมบัติ หทัยเปี่ยมสุข : ประธานเครือข่ายมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (ภาคประชาชน), ประธานชมรมออสโตเมท (โรงพยาบาลราชวิถี)