ประสบการณ์การรักษามะเร็งเต้านมที่ลุกลาม

ประสบการณ์การรักษามะเร็งเต้านมที่ลุกลาม

โดย คุณภาณิชา สุธาพัฒนกิจ อายุ 31ปี

🎬 เมื่อรู้ว่าเป็น…มะเร็ง

🦝 ประสบการณ์การรักษาตั้งแต่พบเชื้อจนจบการรักษา

  • เป็นอะไรบ้าง ปรับตัวอย่างไร
  • มีการใช้แผนการรักษาทางเลือกบ้างไหม ?
  • ช่วงโควิดทำอย่างไร

🐌 โลกที่เปลี่ยนไป

  • มีผลกระทบเกิดขึ้นอย่างไรและรับมืออย่างไร
  • ความคิดเปลี่ยนไป พฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างไร
รู้สู้มะเร็ง being

เมื่อรู้ว่าเป็น…มะเร็ง

เมื่อตอนอายุ 15 ปี ที่ประจำเดือนเริ่มมา พบซีสต์ก้อนหนึ่งที่เต้านมด้านซ้าย แต่หมอบอกว่าเดี๋ยวจะหายเอง จึงทำให้ชะล่าใจมาตลอด ก้อนนั้นก็ไม่เคลื่อนที่ จนกระทั่งหลังจากรับปริญญารู้สึกเจ็บปวดร้าวมาก จนต้องถามเพื่อนว่า “ชุดครุยของเธอหนักไหม ของชั้นรู้สึกหนักเป็น 10 กิโลเลย” หลังจากนั้นก็ขับรถจากเชียงใหม่มาเข้าโรงพยาบาลที่หาดใหญ่ เมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็บอกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเนื้อร้าย

รู้สึกอย่างไร เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง

ตอนแรกร้องไห้อยู่ 10 วินาที หลังจากหมอแค่บอกว่าเป็นเนื้อร้าย 80 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ถามหมอว่าผลออกเมื่อไหร่ หมอบอกอีกสองอาทิตย์ แล้วเราก็ตีตั๋วขึ้นเชียงใหม่เลย

ประสบการณ์การรักษาตั้งแต่พบเชื้อจนจบการรักษา

ก่อนหน้านี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี เป็นเอกชน หมอให้เราเลือกว่าจะผ่าตัดเอาออกแบบสงวนเต้า หรือไม่สงวนเต้า โดยหมอแนะนำว่าเลือกได้ 2 แบบ คือผ่าตัด คีโม แล้วค่อยฉายแสง หรือ คีโม ฉายแสง แล้วค่อยผ่าตัด ขึ้นอยู่กับร่างกายของเรา

เริ่มรักษา

ลักษณะก้อนของเรามันจะเหมือนข้อนิ้ว แข็งติดที่ข้างหัวนมเลย หลังจากนั้นหมอก็ผ่าตัดเอาออก ซึ่งเป็นช่วงระยะที่ 2 แล้วหมอก็ให้ไปคว้าน คว้านไป 2 รอบ เท่ากับผ่าไปสี่รอบ ตอนแรกรักษาเอกชน แล้วไปคว้านออกที่รัฐบาลอีกทีหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมันก็กลับมาอีก ตอนนั้นเรายังไม่แต่งงาน เมื่อคว้านก็ทำให้ผิดรูป

ที่คว้านหลายรอบเพราะไม่อยากทำคีโม ยังบ้าทำงาน ไม่อยากผมร่วง มันทรมานมากเลยยื้อมาเรื่อย ๆ จนไม่ไหวแล้วเลยต้องทำคีโมไป 3 รอบ แล้วก็หนีเลย ทางอนามัยก็มาตามถึงบ้านเพราะหมอสั่งให้ตาม ตอนแรกก็บอกหมอว่ายังไงก็ไม่กลับไปแล้ว แต่ลืมคิดไปว่ามะเร็งมันจะกระจาย แฟนก็เตือน แต่ไม่ฟัง

ลืมคิดไปว่ามะเร็งจะกระจาย คิดอย่างเดียวว่าต้องสร้างฐานะให้กับตัวเอง

ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องสร้างฐานะให้กับตัวเอง เคยคิดว่ามีเงินก็ไม่ตาย เพราะได้ยินมาว่าถ้ามีเงินเป็นมะเร็งก็ตายช้า พยายามสรรหาทุกอย่างจนกระทั่งตัน แล้วก็ต้องกลับมาทำคีโม กิน Tamoxifen (ยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านม) โดยหมออธิบายว่า ต้องกินเพื่อคุมไม่ให้มะเร็งกระจายไปที่อื่น เพื่อชีวิตของคุณเอง

ปอดมีจุด

เคยไปทำ CT Scan แล้วพบว่าปอดมีจุด แต่เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร ซึ่งหลังจากได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับชมรมเพื่อนมะเร็งไทย ก็ได้รู้ว่ามีวิธีการรักษาแบบมุ่งเป้า และรู้จักยาภูมิคุ้มกันบำบัด แต่ไม่มีใครบอกเราแต่แรก ปล่อยจนกระทั่งมะเร็งลามมาที่ปอด จนคิดว่าถ้ากิน Tamoxifen ตั้งแต่แรกอาจจะไม่ลามเท่านี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราอาจจะหละหลวม แต่ตั้งแต่รอบสองที่ให้คีโมไปรอบกระดูก เรามีวินัยมาก เพราะรู้แล้วว่าคีโมมันทรมานมาก

ช่วงเวลาเหตุการณ์หลังจากพบว่าเป็นมะเร็ง

  • ปี 2557 พบว่าเป็นมะเร็ง
  • ปี 2558 ทำคีโม
  • ปลายปี 2559 เป็น Lymphoma
  • ปี 2560 เว้น
  • ปี 2561 ลามที่กระดูก ทำคีโม
  • ปี 2562 ลามที่กระดูก ฉายแสง
  • ปลายปี 2563 ลามที่ปอด

ประสบการณ์การรักษา

มีการใช้แผนการรักษาทางเลือกบ้างไหม ?

ก่อนที่จะไปต่างประเทศ เคยรักษาอยู่ที่หมอจันทร์เพ็ญ เป็นหมอยาต้ม แต่สุดท้ายก็แพ้ หาไปได้สามครั้ง ก็หมดไปราว 3 หมื่น

ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563-2564 มีผลกระทบกับการรักษาอย่างไรบ้าง ?

ได้รับผลกระทบ ทำให้ยากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เช่น เราไปหาหมอแล้วมีญาติคนไข้ที่รู้ตัวว่าเป็นโควิด แต่ก็ยังไปโรงพยายาลกับแม่เค้า ซึ่งต้องเข้าทางเดียวกับเรา ทำให้กลับมาจิตตกเลย แต่ก็ไม่โกรธ เพราะตอนนี้ก็รับสภาพที่ตัวเองต้องอยู่คนเดียวไม่ได้ เลยกักตัว 14 วันที่คอนโดที่หาดใหญ่กับแฟนแล้วค่อยกลับบ้าน เพราะที่บ้านมีเด็ก คนแก่ และคนป่วย พออีกวันไปโรงพยาบาล ก็เจอเหตุการณ์มีประกาศว่าจะเข็นคนไข้โควิดขึ้นไปบนวอร์ด ต้องวิ่งหลบกันหมด รู้สึกว่าน่ากลัวมาก

มีผลกระทบเกิดขึ้นอย่างไรและรับมืออย่างไร

เหมือนเราแพ้ จากการที่เราไม่เข้าใจโรค และเจอสภาพแวดล้อมแย่ๆ แบบคนไปเอายาไม่กลัวโควิดเลย แออัดมาก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในทุก ๆ ด้าน อย่างแรกที่เห็นชัดเจน คือ เรื่องอาชีพ รายได้ เมื่อก่อนต่ออาทิตย์เคยมีรายได้หลักแสน บางที 3 วันได้ 8 หมื่น ต้องชีวิตเปลี่ยน จากอยู่ดีกินดีชีวิตหรู ทุกอย่างเปลี่ยนหมด ตอนนี้ไม่มีเครื่องสำอางสักชิ้น

เปลี่ยนจากกิน fast food . .มากินผัก

เรื่องอาหาร เมื่อก่อนชอบกิน fast food มาก แต่ตอนนี้มาเป็นมังสวิรัติแล้ว คือเป็นพวกกินผักสด กินธัญพืชได้

พยายามหาเวลาว่าง

เรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิต เมื่อก่อนนอนเช้า เดี๋ยวนี้พยายามหาเวลาว่าง

อารมณ์เย็นลง

เรื่องอารมณ์ เย็นลง การเป็นมะเร็งมันช่วยทำให้เราจิตสงบลงเล็ก ๆน้อยๆ

พบกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

เปลี่ยนทุกครั้ง บางทีก็เปลี่ยนในแง่ลบ บางทีก็เปลี่ยนในแง่บวก แง่ลบก็คือ ต้องรับมือว่าจะรักษาต่อยังไงดี มันจะเจ็บแค่ไหน เพราะรักษาทุกครั้งมันเจ็บทุกครั้ง พอมันคิดแล้วมันจะเศร้ามาก ครั้งนี้มะเร็งมาปอด แล้วก็โมโหมาก การทำ MRI มันจะดีกว่าแต่โดนให้ไปฉีดสี ก่อนหน้านี้ซี่โครงข้างซ้ายมันป่องออกมา แต่โดนให้กินยากรดไหลย้อน

ก่อนหน้านี้ มีทัศนคติต่อโรคมะเร็งอย่างไร แล้วตอนนี้เปลี่ยนไปไหม ?

ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีทัศนคติอะไรกับมะเร็งเลย คนเรามันเหมือนว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองเราก็จะไม่สนใจศึกษา แต่พอเป็นแล้ว แฟนเราจะเป็นคนศึกษาแล้วเอามาบอกในช่วงรอบแรก แต่พอรอบสองที่เราไม่มีเงินเข้าแล้ว บางทีก็อยากตายเลยนะ แต่ถ้าเรากลั้นใจตายมันก็เหมือนสิ่งที่เราทำมามันสูญเปล่า เลยคิดว่าอะไรจะเกิดก็แก้ ปัจจัยอะไรที่เราควบคุมได้เราก็ทำ

อะไรจะเกิดก็แก้ ปัจจัยอะไรที่เราควบคุมได้เราก็ทำ

คุณภาณิชา สุธาพัฒนกิจ

ขอบคุณผู้แบ่งปันประสบการณ์

คุณภาณิชา สุธาพัฒนกิจ

-+=